อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า
อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าช๊อต
ไฟฟ้าดูดหรือเกิดการลัดวงจร อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้
ดังนั้นอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าจะช่วยลดอันตรายทำให้เราได้รับความปลอดภัยมากขึ้น
![]() |
| การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า |
ตัวอย่างอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า
· ฟิวส์ (Fuse)
ฟิวส์คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจำกัดจำนวนกระแสที่ไหลในวงจร
มีลักษณะเป็นตัวนำไฟฟ้า ที่ประกอบด้วยเส้นลวดทำมาจากโลหะชนิดอ่อน
บรรจุอยู่ภายในอุปกรณ์ห่อหุ้ม
ซึ่งสามารถที่จะหลอมละลายและตัดวงจรได้เมื่อใช้งานไฟฟ้ามากเกินไป ฟิวส์แต่ละรุ่น
จะมีการแจ้งอัตราทนกระแสกำกับไว้
อัตราทนกระแสหมายถึงปริมาณกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ยอมให้ไหลผ่านฟิวส์ได้
![]() |
| อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (ฟิวส์) |
การติดตั้งฟิวส์หรือถอดเปลี่ยนฟิวส์ จะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังโดยจะต้องตัดพลังงานไฟฟ้าออกจากวงจรก่อนเสมอ
ฟิวส์ที่ใช้งานกันทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
1.ปลั๊กฟิวส์
(Plug Fuse)
คือฟิวส์ที่บรรจุอยู่ในกระบอกที่ทำด้วยกระเบื้อง
เวลาใช้งานให้ติดตั้งบนฐานเกลียว มีแผ่นไส้โลหะที่ออกแบบให้ละลาย
เมื่อกระแสไหลในวงจรเกินค่าที่กำหนด มีหลายแบบหลายขนาด โดยทั่วไปมีอัตราทนกระแส 0-30 แอมป์
นิยมใช้ตามอาคารบ้านเรือนทั่วไป
2.คาร์ตริดฟิวส์
(Cartridae Fuse)
คาร์ตริดฟิวส์จะทำงานคล้ายกับปลั๊กฟิวส์
แต่ต่างกันที่เวลาติดตั้งจะต้องติดตั้งบนขาหนีบสปริง
คาร์ตริดฟิวส์จะติดตั้งใช้งานร่วมกับเซฟตี้สวิตช์ ทนกระแสได้ตั้งแต่ 0-60 แอมป์
3.เบลดฟิวส์
(Blade Fuse)
เบลดฟิวส์ใช้หลักการหลอดละลายตัวเมื่อมีกระแสเกิน
เช่นเดียวกับฟิวส์แบบอื่นแต่จะมีอัตราทนกระแสมากกว่าฟิวส์แบบอื่นคือตั้งแต่ 70-600
แอมป์
เบลดฟิวส์จะติดตั้งบนขาหนีบสปริงมีทั้งแบบใช้ได้เพียงครั้งเดียว
และแบบเปลี่ยนไส้ใหม่ได้
· เซอร์กิตเบรกเกอร์
เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breakers) คืออุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าที่สามารถเปิดวงจรในขณะที่มีความผิดปกติเกิดขึ้น
โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองขาดหรือชำรุดเหมือนฟิวส์ ถ้าเซอร์กิตเบรกเกอร์เปิดวงจร
เราจะต้องหาสาเหตุ ว่าใช้งานกระแสไฟฟ้า มากเกินกว่าที่กำหนดหรือไม่
เกิดไฟดูด, ไฟรั่ว, ไฟช็อต, ไฟเกินหรือไฟตก เกิดปัญหาที่จุดใด แล้วทำการแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าว
หลังจากนั้นให้กดปุ่มรีเซ็ตให้วงจรไฟฟ้าทำงานใหม่ได้
![]() |
| อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า(เบรกเกอร์) |
Ø เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบความร้อน
การทำงานอาศัยหลักการของแผ่นโลหะ 2 ชนิดซึ่งมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวไม่เท่ากันมาประกบยึดติดกัน
เมื่อมีกระแสไหลเกิน หรือวงจรผิดปกติโลหะจะร้อน
ทำให้โก่งตัวหน้าสัมผัสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ จะเปิดวงจรไม่ทำงาน
ในช่วงที่วงจรไม่ทำงาน เราก็ควรหาสาเหตุว่าวเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตัดเพราะอะไร
แล้วทำการแก้ไขให้เรียบร้อย และเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งแผ่นโลหะจะเย็นตัวลง
และจะกลับเข้าไปอยู่ในสภาพเดิมอีก สามารถรีเซ็ตให้กลับมาทำงานใหม่ได้ตามปกติ
Ø เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบแม่เหล็ก
การทำงานอาศัยหลักการของแม่เหล็กไฟฟ้า
แม่เหล็กไฟฟ้าจะเกิดขึ้นจากการไหลของกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวด ในกรณีที่กระแสไฟฟ้า
ผ่านขดลวดเกินพิกัด แม่เหล็กก็จะยิ่งมีอำนาจในการดูดแผ่นกระเดื่อง
ตัดวงจรทำให้วงจรเปิด เมื่อแก้ไขสาเหตุของการใช้งานเกินได้แล้ว
ก็ให้ทำการรีเซ็ตกระเดื่องตัดวงจร ให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เพื่อใช้งานต่อไป
Ø เซอร์กิตเบรกเกอร์ในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้ออกแบบเซอร์กิตเบรกเกอร์ให้ตัดไฟได้อย่างรวดเร็วและสามารถป้องกันการใช้กระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าที่กำหนด, ป้องกันไฟดูด, ป้องกันไฟรั่ว, ป้องกันไฟช็อต และป้องกันไฟเกินหรือไฟตกมีรูปแบบต่าง
ๆให้เลือกมากมาย
![]() |
| อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า(เบรกเกอร์แต่ละแบบ) |
· การต่อลงดิน
สายดินเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยทางไฟฟ้า
ซึ่งจะต้องมีเมื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่ สายดินจะช่วยป้องกันอันตราย
อันเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วได้ ปกติสายดินจะมี 2 ส่วนคือสายดินของระบบใช้ป้องกันระบบไฟฟ้าทั้งหมด
และสายดินของเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นส่วนที่ป้องกันอันตรายเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ
สายดินของระบบมีหน้าที่ป้องกันฟ้าผ่าและไฟฟ้าแรงสูง โดยกระแสไฟฟ้าจะผ่านสายดิน
ซึ่งทำด้วยตัวนำที่ดีลงสู่ดินแทน
ท่อประปาที่ฝังอยู่ใต้พื้นดินอย่างต่อเนื่องจะเป็นการต่อลงดินทางไฟฟ้าที่ดีที่สุด
เนื่องจากมีพื้นที่ผิวสัมผัสกับดินมาก
การที่มีผิวสัมผัสมากจะเป็นการช่วยลดความต้านทาน
และทำให้กระแสไฟฟ้าส่วนที่ไม่ต้องการไหลลงสู่พื้นดินได้ง่ายขึ้น
“กราวด์ร็อดมักใช้แท่งทองแดงที่มีความต้านทานมากกว่า
25 โอห์มต่อลงดิน ส่วนการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าลงดินเป็นการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าภายในบ้าน”
![]() |
| การต่อสายดิน |
![]() |






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น